ผลไม้ต้านมะเร็ง

7 ผลไม้ช่วยรักษามะเร็ง ได้ด้วยตัวคุณเอง | สรรพคุณมากกว่าที่คุณคิด

หลายคนคิดว่า “โรคมะเร็ง” กว่าจะเป็นก็ตอนแก่ แต่หารู้ไหมว่าถึงอายุจะยังน้อยก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถป้องกันหรือรักษามะเร็งได้ตั้งแต่ตอนนี้ด้วย “7 ผลไม้ต้านมะเร็ง” ถ้าไม่เชื่อมาดูกัน……

มะเร็งในวัยเด็กก็เกิดขึ้นได้ไหม?

ในประเทศฝรั่งเศส เมืองลียง ได้มีทีมนักวิจัยแห่งองค์การการวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer) หรือ IARC รายงานว่ามีการตรวจพบมะเร็งรายใหม่ในเด็กเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ตามสถิติดังนี้

  • แต่เดิม ค.ศ. 1981-1990 มีการตรวจพบมะเร็งในเด็กอยู่ที่ 124 คนต่อประชากร 1 ล้านคนต่อปี 
  • จากสำรวจล่าสุด ในช่วงปี ค.ศ. 2001-2010 พบว่ามีอุบัติการณ์ของโรคเพิ่มสูงขึ้นเป็น 140 คนต่อประชากร 1 ล้านคน

หลายคนอาจกำลังมองว่า เฮ้ย! ทั้งโลกเป็นแค่ 140 คนหรอ แต่เปล่าเลย 140 : 1,000,000 คนต่างหากและที่สำคัญที่เป็นเด็กเท่านั้นอีกด้วย พอเข้าใจกันแล้วสินะ ว่ามันเยอะมากแค่ไหน แต่บางคนก็ยังไม่เข้าใจ อะเรามาทำให้เห็นภาพง่ายๆยิ่งขึ้นได้ภาพนี้

รักษามะเร็ง
จำนวนประชากรทั้งโลกที่เป็นมะเร็ง อายุระหว่าง 0-19 ปี (วัยเด็ก)

พอได้เห็นตัวเลขจริงๆ หลายคนเริ่มรู้สึกกลัวกันละ มีถึง 1.99 พันล้านคนทั้งโลก นี่นับแค่ช่วงอายุ 0-19 ปีเท่านั้น ! อายุมากกว่า 19 ปี นี่ยังไม่ได้นับนะ …..

ซึ่งมะเร็งที่พบในเด็กมากที่สุด คือ โรคมะเร็งระบบเลือดในเด็ก ที่พบถึงร้อยละ 46 โดยผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 14 ปี มีโอกาสสูงที่ตจรวจพบมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน (ALL) ถึงร้อยละ 25 นั้นเอง วิธีการรักษาก็ไม่แตกต่างไปจากผู้ใหญ่ นั้นคือ ฉายรังสี และเคมีบำบัดนั้นเอง

เห็นไหมว่ามะเร็งก็สามารถเกิดได้ทุกช่วงอายุ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้ แล้วเรื่องที่บอกว่า ถ้าเราเป็นมะเร็ง ลูกเราจะเป็นด้วยไหม มาดูกัน………

การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของมะเร็ง

เรื่องจริงไม่ได้โม้ มะเร็งได้ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมจริง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น “ทุกคน” เนื่องจากการสืบทอดพันธุกรรมนั้น เกิดจากพ่อและแม่อย่างล่ะครึ่งหนึ่ง (50:50) โดยส่งผ่านโครโมโซมจากพ่อและแม่มายังลูก เรามาดูกันว่าเกิดจากอะไร……….

ทั้งนี้ในตัวเราจะแบ่งยีนออกเป็น 2 กลุ่ม ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ (Tumor suppressor gene) ซึ่งได้แก่ 

  • BRCA1
  • BRCA2

ซึ่งถ้ายีนทั้ง 2 กลุ่มนี้เกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือการผ่าเหล่า (Mutation) จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ได้ ประมาณ 5-10% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และ 10-15% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งรังไข่ เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม 

จากสถิติพบว่า 80% ของผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่นั้น ถูกตรวจพบว่ามียีน BRCA1 และ BRCA2 ที่มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือเกิดการผ่าเหล่า (Mutation) ที่ได้รับถ่ายทอดทางพันธุกรรม และผู้ที่มียีน BRCA1 ที่มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือเกิดการผ่าเหล่า (Mutation) พบว่ามีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งรังไข่ ก่อนอายุ 50 ปีด้วย

เท่านี้ทุกคนคงเห็นแล้วว่า “มะเร็ง” เป็นโรคที่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด แต่เเล้วถ้าเราอยากลดความเสี่ยงในการเกิด และไม่อยากทานยา ฉายรังสีหรือเคมีบำบัดนั้น จะสามารถทำได้อย่างไร คำตอบคือ

Fruit as Medicine

หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า “ผลไม้คือ ยาวิเศษ” เพราะผลไม้นั้น ประกอบด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร และการขับถ่ายได้อีกด้วยเป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย “ผลไม้ต้านหรือรักษามะเร็ง 7 ชนิด”

ผลไม้ต้านหรือรักษามะเร็ง 7 ชนิดมีอะไรบ้าง

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 

ซึ่งอุดมไปด้วยสารฟีโนลิก, แอนโทไซยานินเเละยังมีฤทธิ์ต้านการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย จากงานวิจัยพบว่า บลูเบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สูง ช่วยลดเซลล์ มะเร็งเต้านม ได้ถึง 60-75% ซึ่งเหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก

ทับทิม

ทับทิม 

ซึ่งอุดมไปด้วยกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) ที่ช่วยในการยับยั้งการขยายตัวของเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกายซึ่งอาจจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้นั้นเอง นอกจากนี้ สถาบันมะเร็งแห่งชาติของประเทศสหรัฐ ได้ระบุไว้ว่า สารเอลลาจิก (Ellagic Acid) ในทับทิม สามารถป้องกันหรือ รักษามะเร็งปากมดลูก ในผู้หญิงได้อีกด้วย

ส้ม

ส้ม 

จากการศึกษาของ Texas A&M University พบว่า นอกจากส้ม มะนาว และเลม่อนที่มีวิตามินซี (Vitamin C) สูงแล้ว ยังมีคุณสมบัติต้านหรือ รักษามะเร็งเต้านม ได้ดีอีกด้วย นอกจากเนื้อของส้มแล้ว เปลือกของส้มก็ยังมีฤทธิ์ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย วิธีกินเปลือกส้มง่ายๆ

องุ่น

องุ่น 

เฉพาะองุ่นแดงและองุ่นเขียวเท่านั้น! องุ่นเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยป้องกันการเกิดของมะเร็งได้ เช่น คาเทชิน (Catechin) เทอโรสติลบีน (Petrostilbene) จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านมได้ ในขณะที่องุ่นแดงนั้นมีสาร เรสเวอราโทรล (Resveratrol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็งได้ เหมาะสำหรับผู้ชายและผู้หญิงทาน

มันหวาน

มันหวาน 

จากการศึกษาของ The International Potato Center พบว่า มันหวานมีกรดคาเฟโออิวควินิก (Caffeoylquinic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

มังคุด

มังคุด 

จากข้อมูลของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) พบว่า สารสกัดจากมังคุดนั้นมีฤทธิ์ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด TH1 และ TH17 ขึ้นมา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันเเละกำจัดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิด อีกทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาว TH1 ยังเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และการปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ให้กลายเป็นเซลล์มะเร็งร้ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ ในมังคุดมีสารแซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลาย ซึ่งสามารถช่วยต้านมะเร็งได้นั้นเอง

อะโวคาโด

อะโวคาโด 

ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินอี (Vitamin E) และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายและยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้อีกด้วย

ควรบริโภคอย่างละเท่าไหร่ถึงจะดี?

อัตราหรือจำนวนการบริโภคของผลไม้นั้น ควรจะบริโภคเท่าไหร่ถึงจะดี เพราะไม่ใช่ว่า ยิ่งกินเยอะยิ่งต้านมะเร็งได้ดี แต่มันยิ่งจะทำให้คุณเกิดโรคอื่นตามมาเช่น โรคอ้วน เบาหวาน ได้อีกด้วย เพราะอย่าลืมว่าผลไม้ก็มีระดับน้ำตาลในปริมาณนึงอยู่นะ มาดูกัน……. 

  1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
    • เชอร์รี่  “ตามคำแนะนำ ทานเฉลี่ยปริมาณ 140 กรัม” เพราะจะได้รับไฟเบอร์ปริมาณ 3 กรัมคิดเป็น 12% ของชีวิตประจำวัน
    • สตรอเบอร์รี่ “ตามคำแนะนำ ทานประมาณ 8 ลูกต่อวัน” เพราะจะได้ประโยชน์ที่ครอบคลุมถึง 7 อย่างดังนี้
      • ได้รับ 45 calories
      • วิตามินซี สูง
      • มีสารโฟเลต (Folate) ช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง หลอดประสาทของทารกพัฒนาไปยังสมองและไขสันหลัง
      • ไฟเบอร์ปริมาณ 3 กรัมคิดเป็น 12% ของชีวิตประจำวัน
      • มีโพแทสเซียม (Potassium) ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดความดันโลหิตและโรคหัวใจได้ ทานทุกอาทิตย์ลดความเสี่ยงจากอาการหัวใจวายได้ถึง 3 เท่า!!!
      • น้ำตาล แค่ 7 กรัมเท่านั้น
      • สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเซลล์ มะเร็งเต้านม ได้ถึง 60-75%
    • บลูเบอร์รี่ จากงานวิจัยของ “American Journal of Clinical Nutrition” พบว่า “ควรทาน 150 กรัมต่อวัน ถึงจะมีประโยชน์ โอโห ความรู้ใหม่ ทานน้อยกว่านั้น แทบจะไม่เห็นผล !!
  2. ทับทิม จากคำแนะนำของ “The United States Department of Agriculture” พบว่า “ทานทับทิม 1 ลูกต่อวัน ให้ประโยชน์ถึง 10 อย่าง เช่น ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ นั้นเอง
  3. ส้ม หลายคนคงสงสัยว่าควรกินกี่ลูกต่อวันดี จากหลายงานวิจัยพบว่า Vitamin C ที่คุณจะได้รับจากส้มนั้น ถ้าทานไม่ถึง 40 ลูกก็ไม่เกิน แต่สิ่งที่ต้องระวังคืออะไรนี่สิ!! ส้มมีกรด ที่จะเป็นอันตรายต่อฟันของเรา ถ้าเราทานเยอะก็อาจส่งผลไม่ดี แต่เดียวจะบอกว่า อ้าวแบบนี้ก็ทานไม่ได้หนะสิ แต่เปล่าเลย วิธีแก้ง่ายๆ เมื่อคุณทานส้มแเล้ว ให้ทานน้ำตามไปด้วยนั้นเอง
  4. องุ่น
    • องุ่นแดง และ องุ่นเขียว จากข้อมูลของ Centers for Disease Control and Prevention ในบทความ “Know the amounts you need each day” นั้นให้คำแนะนำว่า “ควรทานประมาณ 16 ลูก – 20 ลูก (ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก) ต่อวันจะดี
  5. มันหวาน “ตามคำแนะนำ ทาน 80g ต่อวัน” ให้พลังงานเพียง 67 แคลอรี่เท่านั้น
  6. มังคุด จากงานวิจัยเกี่ยวกับ มังคุด อ่านงานวิจัยเพิ่มเติม “ทานมังคุด 1 ลูกต่อวัน จะช่วยให้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย แต่ข้อควรระวัง!! สำหรับผู้ที่ต้องผ่าตัด เลือดกำเดาไหลบ่อยๆ เพราะเจ้ามังคุดนี้จะมีสารที่ทำให้ เลือดแข็งตัวช้า เพราะฉะนั้นใครที่รู้ว่าต้องเสียเลือดแน่นอน ให้งดทานมังคุดก่อน 1-2 อาทิตย์
  7. อะโวคาโด จากรายงานพบว่า สามารถทานอโวคาโดได้โดยไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ว่าต้องการ ลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดี หรือไดเอท แต่ถ้าพิจารณาขั้นต่ำที่ควรทาน “อยู่ที่ 1/2 ลูกต่อวัน” 

สุดท้ายนี้จาก สถาบันนักกำหนดอาหาร Ariana Cucuzza, RD ได้กล่าวว่า “There’s no one simple answer because no two bodies are the same” ซึ่งหมายถึง ร่ายกายของมนุษย์นั้นไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถตอบได้ว่าควรบริโภคเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม แต่ถึงแม้ว่าผลไม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน แต่หากรับประทานแล้วเกิดความผิดปกติต่อร่างกาย ควรหยุดรับประทาน และ รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย รวมถึงรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

กระเช้าสุขภาพเหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

จากที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้เห็นว่า การที่เราจะเลือกของฝากไปฝากผู้ป่วยมะเร็งสำคัญอย่างไร เพราะฉะนั้น aDay Fresh จึงได้ออกแบบกระเช้าสุขภาพสำหรับ “ผู้ป่วยมะเร็ง” ที่เหมาะสมให้แก่คุณ

จาก 7 ผลไม้ต้านมะเร็งนั้น ทำให้ได้เซ็ท “Anti Cancer” ที่มีองค์ประกอบของผลไม้ต้านมะเร็ง โดยควบคู่กับหลักของโภชนาการตามคำแนะนำของเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมจัดใส่ลงกล่องกระจก และประดับด้วยดอกไม้ เพิ่มความสวยหรู เหมาะเป็นกระเช้าสุขภาพที่เหมาะแก่การเยี่ยมผู้ป่วยได้ดี สามารถสั่งได้ง่ายๆ คลิ๊ก

ผลไม้ต้านโรคอื่นๆ เพิ่มเติม 5 กลุ่มโรคร้ายแรงที่เสียชีวิตมากที่สุด

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart