ทุเรียนห้ามกินกับอะไร

ทุเรียนห้ามกินกับอะไร? ของอร่อยที่ควรห้ามใจไว้ – aday Fresh

ทุเรียนห้ามกินกับอะไร? ส่งผลต่อร่างกายยังไง?

ทุเรียนที่หลายคนให้ความนิยมสูงที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องความหอม ความอร่อยต้องเป็นทุเรียนไทยเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าทุเรียนห้ามกินกับอะไร? ทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพอะไรบ้าง?

7 อย่างที่ห้ามกินพร้อมทุเรียน?

แอลกอฮอล์

1. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

การกินทุเรียนพร้อมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ และอาเจียนได้

ผักผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

2. ผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

เช่น ส้ม, มะนาว, และมังคุด การรับประทานทุเรียนพร้อมกับผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอาจทำให้เกิดอาการแสบปากหรือไม่สบายในช่องปากได้

นม

3. นมและผลิตภัณฑ์จากนม

การกินทุเรียนพร้อมกับนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือไม่สมบูรณ์ต่อการดูแลสุขภาพของระบบย่อยอาหารของคุณได้

แป้ง

4. อาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก

เช่น ขนมปัง และไข่ขาว การรับประทานทุเรียนพร้อมกับอาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลักอาจทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพได้

กาแฟ

5. กาแฟ

การรับประทานทุเรียนพร้อมกับกาแฟอาจทำให้ระบบประสาทของร่างกายของเราสั่นสะเทือน และอาจทำให้เกิดอาการไมเกรนได้

ของหวาน

6. ขนมหวานหรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูง

การกินทุเรียนพร้อมๆกับขนมหวาน ทำให้ได้รับน้ำตาลที่มากจนเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกและระบบทางเดินอาหารมีปัญหาได้

น้ำผลไม้

7. น้ำผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง

การดื่มน้ำผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูงพร้อมกับทุเรียนอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง และท้องเสีย

โรคอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงในการกินทุเรียน?

โรคที่ควรหลีกเลี่ยงกินทุเรียน

การกินทุเรียนเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและอร่อยมาก แต่ยังมีบางโรคที่ควรหลีกเลี่ยงในการกินทุเรียน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนี้

  1. โรคเบาหวาน – ทุเรียนมีความหวานสูงและมีน้ำตาลสูง ดังนั้นผู้ที่มีโรคเบาหวานควรระมัดระวังในการกินทุเรียนเป็นพิเศษ และควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
  2. โรคความดันโลหิตสูง – การกินทุเรียนมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความดันโลหิต ดังนั้นผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงควรระมัดระวังในการกินทุเรียนเป็นพิเศษ
  3. โรคแพ้ทุเรียน – บางคนอาจมีอาการแพ้ทุเรียน เช่น มีผื่นแพ้ง่าย แสบร้อนในปากและลิ้น หรือมีอาการแสบร้อนในท้อง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนเป็นพิเศษ
  4. โรคภูมิแพ้ – บางคนอาจมีโรคภูมิแพ้ต่อสารเคมีที่ใช้ในการป้องกันทุเรียน เช่น สารเคมีที่ใช้ในการรักษาโรคและแมลง ดังนั้นควรระมัดระวังในการกินทุเรียนที่ไม่รู้ว่าผ่านการใช้สารเคมีหรือไม่

How to กินทุเรียนให้ปลอดภัย?

หลังจากที่ทราบกันไปว่า ทุเรียนห้ามกินกับอะไร? โรคอะไรที่ควรหลักเลี่ยนในการกินทุเรียน? หลายคนอาจมองว่า “ประโยชน์ของทุเรียนมีมั้ย?” และการกินทุเรียนให้ปลอดภัยควรมีวิธีการอะไร? aDay Fresh ได้รวบรวมมา 5 ข้อด้วยกัน

  1. ปริมาณ : ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ปริมาณที่พอดีคือ 1 พูต่อวัน และไม่ควรเกิน 3 วันต่ออาทิตย์ วันละพูเท่านั้น
  2. เวลา : ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทานแต่ละช่วงก็มีความสำคัญเช่น ตอนเช้าทานในปริมาณน้อยๆจะออกฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วงกลางวันจะทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี เเต่ควรงดช่วงเย็น (90% ของคนไทยส่วนใหญ่ทานช่วงเย็น) เพราะจะทำให้ท้องอึดและน้ำหนักเพิ่มส่งผลจากน้ำตาลในปริมาณที่สูง
  3. เนื้อ : ควรเลือกประมาณ กึ่งห่าม กรอบนอกนุ่มใน ไม่ควรเลือกสุกเกินไปเพราะยิ่งหวาน ยิ่งน้ำตาลเยอะ
  4. ดื่มน้ำ : ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน ทำให้อาจเกินอาการร้อนในได้เมื่อทาน ดังนั้นการดื่มน้ำสามารถช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้เช่นเดียวกัน
  5. ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานหรือน้ำตาลที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกายไปได้ เพราะทุเรียนมีน้ำตาในปริมาณที่สูงนั้นเอง

aDay Fresh เป็นบริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับผลไม้พรีเมียมและกระเช้าผลไม้พรีเมียมมายาวนานกว่า 8 ปี ได้ทำการคัดเลือกทุเรียนหมอนทองออแกนิค ตั้งแต่ขั้นตอนในการปลูก เก็บ ดูแล และการปลอกเพื่อให้ได้เนื้อทุเรียนที่มีความพิเศษและถูกสุขอนามัยให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

ทุเรียนหมอนทอง

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart