มะยงชิด

7 เรื่องน่ารู้ของมะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้า ผลไม้ GI จากจังหวัดนครนายก

ทุกคนรู้หรือไม่ว่าผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ GI ของจังหวัดนครนายก คือผลไม้อะไร ? ลักษณะคล้ายไข่ไก่ ลูกใหญ่เหมือนไข่เป็ด มีสีเหลืองแกมส้ม ผิวนวลเนียนดูน่าทาน aDayFresh จะพามารู้จักผลไม้ชนิดนั้นซึ่งก็คือเจ้า มะยงชิด นั่นเอง ~~~ ไม่ได้มาอวดแค่ความอร่อยแต่จะมาอวดอีก 4 คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของคุณ ทั้งวิธีการปลูกและเลือกดูมะยงชิดสายพันธุ์ทูลเกล้าที่เป็นสายพันธุ์ที่อร่อยที่สุดมีชื่อที่สุดและจะพิเศษยังไง?

1. ทำไมมะยงชิดถึงได้ถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ของจ.นครนายก ?

เพราะส่วนมากปลูกในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี อำเภอองครักษ์ และอำเภอเมืองนครนายก

ซึ่งจังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทางการเกษตรที่ดี คุณภาพของดินดีรวมถึงภูมิอากาศก็ดีไม่แห้งแล้งจนเกินไป

เดิมทีแล้ว มะยงชิดสายพันธุ์ทูลเกล้า มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ที่ ต.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี ต่อมาได้มีผู้นำเอาต้นพันธุ์ไปปลูกที่ จ.นครนายก

เก็บผลขายกลายเป็นผลไม้ดีประจำจังหวัดนครนายก จึงทำให้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าประจำจังหวัด

ซึ่งจะมีลักษณะเด่น คือ ผลใหญ่ รูปไข่ มีสีเหลืองส้ม เนื้อแน่น กรอบ มีกลิ่นหอม

เมล็ดลีบสีน้ำตาลอ่อน รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีค่าความหวาน 18 – 22 องศาบิกซ์

ถึงแม้ว่ามะยงชิด จะสามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ แต่ข้อสำคัญคือตอนปลูกครั้งแรกพื้นที่ปลูกต้องไม่มีน้ำขัง

ถ้าน้ำขังรากจะเน่า ให้ปลูกในลักษณะพูนดินขึ้นมาเป็นกระทะ รอจนต้นเริ่มแตกใบอ่อนให้เราได้เห็น แสดงว่าต้นนั้นอยู่รอด

และจะใช้เวลาปลูก 3 ปี ในการรอให้ผลผลิต และยังสามารถเก็บผลผลิตได้นานอีกไป 40-50 ปีกันเลยทีเดียว

2. เคล็ดลับในการปลูก

🍂 เตรียมดิน การปลูกจะดินอะไรก็แล้วแต่ ต้องดูว่าพื้นดินเป็นที่ลุ่มหรือเปล่า ถ้าเป็นที่ลุ่มก็ควรจะพูนดินขึ้นมาเป็นหลังเต่า ถ้าดินดีไม่ต้องขุดลึก ขุดแค่ประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วผสมปุ๋ยหรือใช้ดินธรรมดาปลูกได้ทุกสภาพ ต้องอย่าให้น้ำขัง อย่าให้แห้งแล้งจัด ช่วงแรกจำเป้นจะต้องให้ความชุ่มชื้นกับดินบ้าง

🌱 การปลูก จะมี 2 แบบ ถ้าปลูกแบบทำกิ่งขาย ใช้ระยะห่าง 4-5 เมตร แต่ถ้าปลูกเพื่อเก็บผลผลิต ให้ปลูกระยะห่าง 8 เมตร จะได้ผลดีกว่า

💦 ระบบน้ำ มะยงชิด เป็นพืชที่ทนความแล้งได้ แต่ทางที่ดีควรมีระบบน้ำ หากปลูกแบบรอน้ำฝน ผลผลิตที่ได้ก็จะไม่ดีเท่าที่ควร ขนาดของผลจะเล็ก ควรดูแลให้น้ำแบบพอประมาณและไม่ปล่อยให้แห้ง ระยะการให้น้ำก็ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นดินของแต่ละพื้นที่

🍃 ปุ๋ย ทันทีที่เก็บลูก ควรตัดแต่งกิ่งที่เสียออกไป จากนั้นใส่ปุ๋ยคอก เพื่อบำรุงต้นให้ผลผลิตในรอบต่อๆไปมีคุณภาพที่ดี

3. เทคนิคทำขนาดผลให้ใหญ่

มะยงชิด

เทคนิค aDayfresh สรุปมาให้คุณแล้ว มี 2 ข้อหลักๆด้วยกัน
ข้อ1 :  ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่เลือกปลูก ถ้าพันธุ์ที่ปลูกเป็นพันธุ์ที่ให้ลูกเล็ก ไม่ว่าจะดูแลดีแค่ไหนลูกก็ยังเล็กอยู่ 

ข้อ2 : ถ้าพันธุ์ที่เราปลูกดีแค่ไหนแต่ไม่รดน้ำ จะให้ผลผลิตออกมาลูกใหญ่ก็คงจะยาก
ทางที่ดีคือ เมื่อผลเกือบเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็เริ่มให้รดน้ำได้ สามารถให้วันเว้นวันได้ แต่ถ้าให้น้ำมากเกินไปใบอ่อนที่ออกมาจากต้นจะสลัดลูกทิ้ง หากคุณต้องการปลูกก็ต้องหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะเพียงแค่พื้นที่ปลูกหรือภูมิอากาศก็มีความแตกต่างกันแล้ว

4. ทำไมมะยงชิดจึงหน้าตาคล้ายกับมะปราง ??

หลายคนอาจจะแยกในส่วนนี้ไม่ออกว่าผลไม้ทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร อธิบายแบบเข้าใจกันง่ายๆ น้องเป็นผลไม้ตระกูลเดียวกัน

เนื่องจากทั้งมะปรางและมะยงชิด (ชื่อสามัญ Marian Plum, Plum Mango) เป็นพืชที่จัดอยู่ในวงศ์เดียวกัน (ANACARDIACEAE) ทำให้มีลักษณะส่วนใหญ่ที่คล้ายคลึงกัน ต่างกันเพียงเล็กน้อยตามสายพันธุ์  แยกออกจากกันด้วยตาเปล่า จึงแทบจะไม่เห็นถึงความแตกต่าง แต่หากแบ่งด้วยรสชาติแล้ว จะสามารถแยกออกมาได้ 3 ชนิด คือ

  • มะปราง : ผลดิบสีเขียวซีด ผลสุกจะมีสีเหลืองอ่อน รสชาติเนื้อหวาน เปลือกก็หวาน
    เนื่องจากหวานจัด จึงทำให้ทานแล้วอาจจะมีอาการคันคอได้
  • มะยงชิด : ผลดิบสีเขียวเข้ม ผลสุกจะมีสีเหลืองแกมส้ม เนื้อหวาน เปลือกเปรี้ยว
    ชื่อเพี้ยนคำมาจากคำว่า ลำยงชิด หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า มะปรางลำยงชิด 
  • มะปรางเปรี้ยว มะยงห่าง หรือกาวาง : รสชาติเนื้อเปรี้ยวและเปลือกเปรี้ยว บางสายพันธุ์จะเปรี้ยวมาก
    จนขนาดที่ว่า นกกาลองจิกกินเพื่อลิ้มรสชาติก็ต้องรีบวาง แล้วบินหนีไปทันทีเพราะเปรี้ยวมากๆ
    จึงไม่นิยมรับประทานเป็นผลไม้สดแต่จะทำไปแปรรูป เช่น แช่อิ่ม หรือ ดอง

เรียงลำดับจากเปรี้ยวไปหาหวานของมะปรางทั้ง 5 สายพันธุ์จะได้ดังนี้

5. 4 ประโยชน์หลักของมะยงชิด

มะยงชิด

  1. ช่วยให้มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสและยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่สูงรวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย
  2. ช่วยบำรุงสายตา เพราะเมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนแล้วจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตาและโอกาสการเกิดต้อกระจก จึงเหมาะจะให้ผู้ใหญ่หรือผู้ที่เสี่ยงโรคต้อกระจกได้ทานเพื่อบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงจากโรคเกี่ยวกับดวงตา
  3. ช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้เจ็บป่วยง่าย เพราะมีวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานและสามารถยังป้องกันเลือดออกตามไรฟันอีกด้วย
  4. ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันของเราแข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและกระดูกเสื่อมได้ เนื่องจากมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งสารอาหารทั้ง 2 อย่างนี้มีความสำคัญต่อกระดูกมาก ๆ จึงเหมาะที่จะให้ผู้สูงอายุได้ทานเพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรงและอยู่กับเราไปนานๆ

ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนาการของมะยงชิดปริมาณ 100 กรัม (3-4 ผลแล้วแต่ขนาดของลูก)

  • พลังงาน 62 กิโลแคลอรี
  • ใยอาหาร 1.6 กรัม
  • โซเดียม 2 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 137 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 1 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 13 มิลลิกรัม 
  • สังกะสี 0.10 มิลลิกรัม
  • ไอโอดีน 1.8 ไมโครกรัม
  • เบต้าแคโรทีน 207 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 25 มิลลิกรัม 
  • น้ำตาล 13 กรัม


เรียกได้ว่ามีคุณประโยชน์ที่ครบ นอกจากที่จะมีวิตามินและเบต้าแคโรทีนที่สูงแล้ว ยังมีแคลอรีที่ต่ำ เหมาะสำหรับสายรักสุขภาพอีกด้วย

6. ความพิเศษของมะยงชิดจาก aDayFresh

“มะยงชิดสายพันธุ์ทูลเกล้า” มีข้อโดดเด่นคือเวลาติดผลจะดกมาก ขนาดเสมอกันทุกพวง เมล็ดลีบเนื้อแน่นเยอะ

รสชาติหวานอมเปรี้ยวจึงเป็นสายพันธุ์ที่อร่อยที่สุดจากทุกสายพันธุ์ก็ว่าได้

#aDayFresh เห็นว่าเป็นผลไม้ไทยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เราจึงคัดมะยงชิดทุกลูกอย่างดี เลือกสรรเฉพาะ #สายพันธุ์ทูลเกล้า
ที่ถูกปลูกและดูแลเอาใจใส่จากเกษตรกร จ.นครนายก เป็นอย่างดี ทำให้ผลผลิตที่ได้นั้น อร่อยหวานกรอบชื่นใจ

เราบุกไปคัดถึงสวนที่จังหวัดนครนายก เพื่อสนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรไทย 🍃 ซึ่งเรามองเห็นว่าผลไม้ไทยควรได้รับการยกย่อง
ไม่แพ้กับผลไม้นำเข้าอื่นๆ เพราะคุณภาพของเกษตรไทยเราจัดว่า ‘TOP CLASS🥇
อีกทั้งยังสนับสนุนให้กลุ่มชมรมมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างอาชีพและรายได้สู้ท้องถิ่น และส่งเสริมให้เกษตรไทย

เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางอีกด้วย รับประกันได้เลยว่า สด ใหม่ อร่อยและลูกใหญ่สมกับเป็นผลไม้ GI จังหวัดนครนายก
ไซส์ที่เราคัดมานี้จะมีจำนวนไม่มาก เก็บได้ปีละครั้งและเรายังมีขั้นตอนการเก็บและการดูแลผลผลิตแบบพรีเมี่ยมเป็นอย่างมาก
ทำให้เป็นผลไม้ที่ทานแล้วจะสดชื่นที่สุดในช่วงฤดูร้อนนี้เลย

7. มะยงชิดลอยแก้วเมนูฮิตช่วงฤดูร้อน

นอกจากทานสดๆจะอร่อยแล้ว เรายังสามารถนำมาทำเป็นขนมหวาน

ทานเล่นเพื่อคลายร้อนได้อีกด้วย แลเมนูที่ง่ายที่สุดคือ “มะยงชิดลอยแก้ว”

วัตถุดิบ

  • มะยงชิด 8-10 ลูก 
  • น้ำสะอาด 1 ลิตร  
  • น้ำตาล 250 กรัม  
  • เกลือ 1 ช้อนชา  
  • ใบเตย 2-3 ใบ 

ขั้นตอนในการทำ

  1. ปอกเปลือก และคว้านเมล็ดออกจากนั้นนำไปล้างน้ำเกลือเพื่อล้างยางออก 
  1. ตั้งน้ำสะอาด และเติมน้ำตาล จากนั้นต้มให้น้ำตาลละลายใส่ใบเตยมัดลงไป เพื่อให้น้ำเชื่อมมีกลิ่นหอม 
  1. นำมะยงชิดมาแช่ในน้ำเชื่อมเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงหรือ 1 คืน
  2. ราดน้ำเชื่อมและเติมน้ำแข็งก่อนทานเพื่อเพิ่มความสดชื่น

ถ้ายังลังเลอยู่ อยากให้คุณได้ลองเปิดใจให้กับผลไม้ไทยลูกส้มๆเหลืองๆ นี้

แล้วคุณจะได้พบกับความหวานสดชื่นที่ช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายของคุณได้เป็นอย่างดี

และถ้าหากต้องการผลไม้ที่ได้คุณภาพคัดสรรพิเศษพรีเมี่ยม ให้นึกถึง aDayFresh ได้เลย

เพราะเราคัดสดใหม่จากสวนที่จ.นครนายก จึงทำให้คุณวางใจได้ว่า จะได้ทานมะยงชิดที่อร่อยและได้คุณภาพดี ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ

สำหรับใครที่อยากจะมอบป็นของขวัญทางเราก็มีบริการจัดใส่กระเช้าให้ พร้อมบริการจัดส่งแบบ Delivery
และมีการรับประกันบริการหลังการขายอีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้กันแล้ว หลายๆคนคงจะได้รู้จักมะยงชิดมากขึ้น และหลงรักเจ้าผลไม้ลูกเท่าไข่ไก่เบอร์ใหญ่นี้โดยไม่รู้ตัว…

นอกจากความอร่อยก็คือประโยชน์ของนี่แหละที่ดีสุดๆ ถ้าเราทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดีก็ได้รับสุขภาพที่ดีได้แล้ว

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart